post

แม้ว่าว่าวแบบสามเหลี่ยมอันแสนคลาสสิคยังเป็นที่นิยมอยู่ แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันก็ทำให้มีว่าวมากมายหลากหลายรูปแบบที่ออกแบบมาสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป เช่น ว่าวที่มีรูปทรงเหมือนกล่อง ว่าวรูปทรงกระบอก ว่าวรูปปลาหมึก ว่าวพาราฟอล์ย หรือว่าวรูปเรือ เป็นต้น เรียกได้ว่าทุกสิ่งที่เราเคยเห็นสามารถนำมาออกแบบเป็นว่าวได้ทั้งหมด สาเหตุที่มีรูปแบบว่าวมากขนาดนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อแค่สร้างความบันเทิงอย่างเดียว แต่ว่าวยังสามารถถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาอีกด้วย เรียกได้ว่าว่าวที่เต็มไปด้วยสีสันและรูปทรงอันเต็มไปด้วยจินตนาการก็ช่วยทำให้ว่าวสามารถเอาชนะคู่แข่งและทำผู้ชมเพลิดเพลินได้ในเวลาเดียวกัน มาดูกันดีกว่าว่าเราสามารถแบ่งประเภทพื้นฐานว่าวสากลได้อย่างไรบ้าง และว่าวแต่ละชนิดสามารถลอยขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร

  1. ว่าวสายเดี่ยว (Single Line Kites)

ว่าวสายเดี่ยวก็คือว่าวที่มีสายป่านว่าวเส้นเดียวผูกกับตัวว่าว สามารถลอยขึ้นไปบนอากาศได้ง่ายกว่าว่าวชนิดอื่น อีกทั้งยังทำไม่ยากและราคาไม่แพง ว่าวสายเดี่ยวนี้มีทั้งว่าวแบบแบนที่มีชั้นเดียว หรือว่าวที่ประกอบกันด้วยชั้นหลายชั้น ซึ่งอาจจะโยงด้วยสายป่านหลายสาย แต่สายป่านหลายสายนั้นจะต้องมารวมกันเป็นสายเดียวลงมาเสมอ (bridle point) ซึ่งจุดรวมกันของสายป่านว่าว (bridle point) นี้สามารถปรับขึ้นเพื่อให้ว่าวสามารถลอยได้ดีในวันที่มีลมเล็กน้อย หากมีลมแรงก็สามารถปรับลงมาเพื่อให้ว่าวสามารถควบคุมได้ง่ายขึ้น  ปัจจุบันมีการออกแบบลวดลายว่าวสายเดี่ยว (Single Line Kites) ออกมามากมาย ตั้งแต่ขนาดเล็ก ๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่ถึง 3 เมตรเลยทีเดียว

  1. ว่าวสายคู่ (Dual Line Kites)

ว่าวสายคู่ (Dual Line Kites) ถูกออกแบบมาให้ผู้ควบคุมว่าวสามารถคุมการเคลื่อนไหวของว่าวบนอากาศได้ดียิ่งขึ้น ผู้เล่นจะต้องฝึกและเรียนรู้การควบคุมว่าวแบบสายป่านคู่นี้สักระยะหนึ่งก่อน เพราะมีความยากง่ายต่างกับว่าวแบบสายเดี่ยวอยู่เล็กน้อย หลัก ๆ แล้วผู้เล่นเพียงแค่ต้องจับสายป่านว่าวให้แน่นกว่าปกติเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องปรับขนาดสายอะไรให้วุ่นวายเพิ่มเติมอีก ส่วนมากว่าวแบบสายคู่มักจะใช้ในการประลองว่าวหรือการเล่นว่าวแบบผาดโผน เพราะว่าวแบบนี้จะสามารถเคลื่อนไหวได้ไวมาก บางครั้งสามารถแล่นไปได้เร็วกว่า 50 เมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

  1. ว่าวสี่สาย (Quad Line Kites)

เช่นเดียวกับว่าวสายคู่ ว่าวสี่สาย (Quad Line Kites) ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เล่นสามารถควบคุมว่าวของตัวเองได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยว่าวแบบนี้มักจะมีสายป่านว่าว 4 สาย แบ่งเป็นด้านขวา 2 สายและด้านซ้ายอีก 2 สาย และต้องใช้ด้ามจับหรือด้ามควบคุมเพื่อช่วยในการควบคุมว่าว โดย 2 สายแรกจะอยู่ด้านบนของว่าว ส่วนอีก 2 สายจะอยู่ด้านล่าง ในส่วนของด้านล่างจะเสมือนเป็นตัวเบรกของว่าว ทำให้ว่าวแล่นช้าลง

ข้อดีของว่าวแบบนี้คือสามารถควบคุมความเร็วของว่าวได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังทำให้ว่าวลงจอดได้ง่ายกว่าว่าวชนิดอื่น เหมาะกับการเล่นว่าวผาดโผนและการประลองว่าว