post

“รู้สาเหตุการบาดเจ็บ” หนึ่งวิธีเอาตัวรอดเมื่อเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม

การใช้ชีวิตในสังคมนั้นแน่นอนว่าการจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขนั้น ทุก ๆ คนที่อยู่ในสังคมจะต้องรู้จักสิทธิและหน้าที่ของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักการเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น บ้านต้องมีกฎบ้าน โรงเรียนต้องมีกฎโรงเรียน และสังคมก็มีกฎหมายเอาไว้ควบคุมดูแลไม่ให้มีใครคนใดคนหนึ่งทำอะไรได้ตามอำเภอใจมากจนเกินไปมาก ชนิดที่ว่าไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น

การเล่นกีฬาทุกชนิดก็เช่นเดียวกัน จะต้องมีกฎกติกาในการเล่น การแข่งขัน เพราะหากปราศจากกฎกติกาเหล่านี้แล้ว การเล่นกีฬาก็อาจจะทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างผู้เล่นและกองเชียร์ขึ้นได้ ซึ่งกีฬาเอ็กซ์ตรีมก็เป็นอีกหนึ่งประเภทกีฬาเช่นเดียวกันที่ไม่ว่าจะเป็นกีฬาชนิดไหน ก็ย่อมที่จะต้องมีกฎกติกาในการเล่นเป็นพื้นฐานให้ได้เรียนรู้กันอยู่แล้ว ซึ่งข้อดีของการเคารพเคร่งครัดในกติกาการเล่นก็คือจะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขณะเล่นได้นั่นเอง ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้วสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุหรืออาการบาดเจ็บนั้นก็มีได้หลากหลายสาเหตุ ทั้งจากภายในก็คือตัวนักกีฬาเอง และสภาพแวดล้อมภายนอก เราไปดูรายละเอียดกันดีกว่าว่าสาเหตุเหล่านั้นมีอะไรกันบ้าง

สาเหตุจากตัวนักกีฬา

1.ขาดความแข็งแรงของร่างกาย การฝืนเล่นกีฬาทั้งที่ร่างกายขาดความพร้อม เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุหรืออาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี

2.ขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่องกฎกติกา และวิธีการเล่น ซึ่งถือว่าเป็นความรู้พื้นฐานสำหรับนักกีฬาทุกคนที่จำเป็นจะต้องรู้

3.ความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นเมื่อเล่นกีฬาติดต่อกัน หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจจะส่งผลเสียขณะเล่นกีฬาได้

4.ขาดการอบอุ่นร่างกายทั้งก่อนและหลังการเล่นกีฬา ทำให้ร่างกายมีโอกาสบาดเจ็บได้

สาเหตุจากปัจจัยภายนอก

1.ความพร้อมของอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น หากอุปกรณ์ไม่พร้อมแน่นอนย่อมมีความเสี่ยงสูงต่อผู้เล่นอย่างแน่นอน

2.สภาพลมฟ้าอากาศขณะเล่นกีฬาเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องศึกษาข้อมูลมาก่อน แต่แม้ว่าจะศึกษามาแล้วเป็นอย่างดี บางทีก็อาจะมีความผิดพลาดหรือมีความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได้

3.ความประมาทของผู้อื่นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นหากทุกคนระมัดระวังตัวเองในการเล่นเป็นอย่างดีก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง

4.สภาพพื้นที่ในการเล่นกีฬา ควรจะต้องเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับแต่ละชนิดกีฬาต่าง ๆ เช่น หากต้องการกระโดดลงมาจากที่สูงเพื่อลงน้ำ แหล่งน้ำนั้นจะต้องมีความลึกที่เหมาะสม เป็นต้น

และเมื่อเราทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุหรือความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บขณะเล่นกีฬากันแล้ว เราก็จะสามารถหาวิธีป้องกันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ทำอะไรที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง หรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นได้ เท่านี้ก็เป็นการการันตีเบื้องต้นได้อย่างหนึ่งแล้วว่าเราจะสามารถเอาตัวรอดจากการเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมได้อย่างแน่นอน

post

3 กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่อุปกรณ์อาจไม่จำเป็นเท่าใจที่กล้ามากเพียงพอ

ขึ้นชื่อว่าเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมนั้น แน่นอนว่ามีความอันตรายและมีความเสี่ยงในการเล่นอย่างแน่นอน ดังนั้นอุปกรณ์ในการเล่นจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างมากที่ผู้เล่นจะต้องให้ความสำคัญ แต่ก็มีบางทีเช่นเดียวกันที่อันตรายในการเล่นก็อาจจะเกิดขึ้นได้จากอุปกรณ์เหล่านี้นี่เอง

อย่างไรก็ตาม มีกีฬาเอ็กซ์ตรีมบางชนิดที่ใช้อุปกรณ์น้อยมาก ๆ ในการเล่น หรือบางชนิดก็ถือได้ว่าไม่ได้ใช้อุปกรณ์สำคัญภายนอกที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย แต่ก็ยังสามารถทำให้ผู้เล่นได้รับความสนุกท้าทายจากการเล่นได้ไม่แพ้กีฬาที่ต้องใช้อุปกรณ์ และอาจจะยิ่งเพิ่มความท้าทายให้กับผู้เล่นมากขึ้นได้ในบางครั้งได้อีกด้วย เราไปดู 3 กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่อุปกรณ์อาจไม่จำเป็นเท่าใจที่กล้ามากเพียงพอกันเลยดีกว่า

1.Free Running หรือ Parkour จัดเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นแถบยุโรปเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุก็อาจจะมาจากการที่เจ้ากีฬาชนิดนี้นั้นไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมที่นอกเหนือไปจากการวิ่งใด ๆ นั่นเอง การวิ่งประเภทนี้ไม่ใช่เพียงแค่การวิ่งเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเดินทางด้วยเท้าทั้ง 2 ข้าง และใช้ร่างกายในการเคลื่อนที่ผ่านสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่อง สิ่งปลูกสร้างประเภทต่าง ๆ ตั้งแต่ขนาดเล็ก ๆ อย่างเช่นราวบันได ไปจนถึงตึกที่มีขนาดความสูงแตกต่างกันไป ผู้ที่จะสามารถเล่นกีฬาชนิดนี้ได้ดีจะต้องเป็นบุคคลที่มีความแข็งแรงทางด้านร่างกายเป็นอย่างมาก และจำเป็นจะต้องมีทักษะทางการออกกำลังกายพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นการกระโดด การตีลังกา การปีนป่าย หรือแม้กระทั่งทักษะของกีฬาเฉพาะทางอย่างยิมนาสติก เป็นต้น

2.Free Solo Climbing เป็นรูปแบบการปีนหน้าผา หรือการปีนภูเขาสูงรูปแบบหนึ่งที่ปราศจากการใช้อุปกรณ์ใด ๆ ยกตัวอย่างเช่น เชือกที่ใช้สำหรับการปีนป่าย เรียกได้ว่ามีแค่ร่างกายกับใจที่เกินร้อยนั่นเท่านั้นที่ต้องพาตัวเองเคลื่อนตัวไปตามแนวหน้าผา หรือเขาที่สูงชัน ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาชนิดนี้จะต้องเป็นคนที่มีพละกำลังร่างกายที่แข็งแรงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวัยวะที่ใช้สำหรับการยึดเกาะ อย่างเช่นนิ้วมือ นิ้วเท้า พละกำลังของแขนและขา แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากกีฬาเอ็กซ์ตรีมประเภทนี้มีอันตรายเป็นอย่างยิ่ง ส่งผลให้การปีนเขา หรือหน้าผารูปแบบนี้ไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักปีนเขามากนัก เนื่องจากมองว่าเป็นการท้าทายความตายจนมากเกินพอดี อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการปีนเขาอีกด้วย

3.Freediving เป็นรูปแบบการดำน้ำชนิดหนึ่งที่ผสมผสานเอาการดำน้ำ  2 รูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย การดำน้ำแบบ Snorkeling ที่ระดับผิวน้ำ และการดำน้ำ Scuba ที่ระดับความลึกไม่เกิน 30 เมตร โดยใช้ถังออกซิเจนช่วยในการหายใจ โดย Freediving จะเป็นการดำน้ำที่ระดับความลึก 5 เมตรลงไป โดยอุปกรณ์ที่ใช้จะคล้ายกับการดำน้ำทั้งแบบ Snorkeling และ Scuba ซึ่งประกอบด้วย หน้ากาก (Mask) Snorkel และตีนกบ (Fins) แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เสื้อชูชีพ เพราะหากใช้เสื้อชูชีพจะไม่สามารถลงไปใต้น้ำเพื่อสัมผัสกับสิ่งสวยงามใต้ท้องทะเลได้ ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมประเภทนี้จึงจำเป็นจะต้องมีทักษะการว่ายน้ำดีพอสมควร ตลอดจนผ่านการเรียนรู้วิธีกลั้นลมหายใจในน้ำให้สามารถอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน ซึ่งการฝึกอยู่ใต้น้ำนาน ๆ นั้นจะต้องได้รับการฝึกฝนจากผู้ฝึกสอนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะก่อนมิเช่นนั้นจะเป็นอันตรายกับชีวิตตนเองเลยทีเดียว

จากสาระความรู้ที่นำมาฝากกัน จะเห็นได้ว่ากีฬาเอ็กซ์ตรีมอาจจะจำเป็นต้องใช้หรือไม่ใช้อุปกรณ์ก็ได้ในบางชนิดกีฬา แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสติในขณะเล่นกีฬาเหล่านี้ เพราะหากพลาดแม้เพียงนิดเดียวคุณหรือคนที่คุณรักอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตเลยก็ได้

post

3 กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ว่าด้วยเรื่องของการโดด

“การกระโดด” ถือเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญที่จำเป็นต่อการออกกำลังกายในรูปแบบต่าง ๆ เป็นอย่างยิ่ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่ต้องอาศัยความผาดโผนมาก ๆ อย่างกีฬาเอ็กซ์ตรีมประเภทต่าง ๆ บทความนี้จึงจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 3 กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ว่าด้วยเรื่องของการโดด ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีรูปแบบการโดดแบบไหนที่ให้ความตื่นเต้นเร้าใจ ท้าทายคนชอบโดดกันบ้าง

1. Cliff Jumping คือกีฬาเอ็กซ์ตรีมรูปแบบหนึ่งที่อาศัยการกระโดดจากหน้าผาสูงลงสู่แหล่งน้ำเบื้องล่าง ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ หรือทะเล ซึ่งเป็นการกระโดดโดยที่ไม่ใช้เครื่องป้องกันตัว ปกปิดติดร่างกายแต่อย่างใด นี่จึงทำให้กีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ ในขณะเดียวกันก็อันตรายเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะต้องเสี่ยงกับอาการบาดเจ็บที่ได้จากการที่ร่างกายโดดลงมาจากที่สูงกระทบกับแรงตึงผิวของน้ำเข้าอย่างจังแล้ว หากใครที่ประมาทไม่ทันตรวจสอบความลึกของน้ำเบื้องล่างที่กระโดดลงไปหรือไม่ตรวจสอบให้ดีกี่ว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ใต้น้ำหรือไม่นั้น ก็อาจจะประสบกับอุบัติเหตุที่อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตกันได้

2. Base Jump เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของกีฬาท้ามฤตยูที่ว่าด้วยเรื่องของการโดด ปกติแล้วการกระโดดลงมาโดยใช้ร่มชูชีพนั้น ผู้เล่นมักกระโดดลงมาจากเครื่องบิน ดังนั้นสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ระหว่างทางจึงมีไม่มากนัก เพราะมีแค่ฟ้ากับเมฆ แต่ Base Jump นั้นเป็นการกระโดดเช่นเดียวกับการใช้ร่มชูชีพต่างกันที่สถานที่ที่ใช้ในการกระโดด เพราะกีฬาประเภทนี้ผู้เล่นจะโดดลงมาจากพื้นดินหรือพื้นที่ที่อยู่ในระดับความแตกต่างกัน เช่น ยอดเขาสูง ยอดตึกที่ระดับความสูงต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นมันจึงค่อนข้างหลากหลายกว่าการกระโดดจากเครื่องบินนั่นเอง ต้องบอกเลยว่า Base Jump ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่อันตรายไม่น้อยไปกว่ากีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดอื่น ๆ เลยทีเดียว

3. Bungee Jump แน่นอนว่าหากพูดถึงกีฬาผาดโผนที่เสี่ยงต่อชีวิตด้วยการกระโดดลงมาจากที่สูงกันแล้วล่ะก็ เจ้ากีฬาชนิดนี้จะต้องติดอยู่ในรายการที่มีคนพูดถึงเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน โดย Bungee Jump นั้นเป็นรูปแบบการกระโดดลงมาจากที่สูงตั้งแต่ระดับความสูง 20 เมตร ซึ่งโดยปกติแล้วส่วนใหญ่มักจะกระโดดลงมาจากสถานที่ที่ไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน เช่น สะพานสูง ตึกสูง เป็นต้น แต่ก็มีบ้างที่ผู้เล่นกระโดดลงมาจากยานพาหนะที่เคลื่อนที่ได้อย่างเครื่องบิน หรือเฮลิคอปเตอร์ เป็นต้น โดยการเล่น Bungee Jump นี้จะต้องมีผู้ควบคุมการกระโดดที่เรียกกันว่า Jump Master ซึ่งจะต้องเป็นผู้ควบคุมดูแลการกระโดด การคำนวณความสูงต่าง ๆ ที่เหมาะสม และอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบด้วย สายเชือก ที่รัดขา เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า 3 กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ว่าด้วยเรื่องของการกระโดดที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น นอกจากความแข็งแรงของร่างกายแล้ว ความแข็งแกร่งของจิตใจก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กัน เพราะหากใครเคยกระโดดในที่สูงระดับหนึ่งมาก่อนแล้วจะเข้าใจว่าถ้าไม่แน่จริง ไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็กระโดดได้

post

3 ทักษะสำคัญที่ได้จากกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่าง Cave Diving

ทักษะทางการเล่นกีฬาเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยปูทางให้เรามีทักษะอื่น ๆ ตามมา อย่างเช่น ทักษะการเข้าสังคม ทักษะการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เป็นต้น ซึ่งกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่าง Cave Diving ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะอื่น ๆ ให้กับผู้เล่นได้อีกมากมาย แต่ก่อนอื่นเราจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับเจ้า Cave Diving ให้ดีกันเสียก่อน

Cave Diving เป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดหนึ่งที่ผู้เล่นต้องดำน้ำลึกเข้าไปภายในถ้ำที่ทั้งมืดและลึก สำหรับใครก็ตามที่อาจจะยังนึกไม่ออก ก็ให้นึกถึงสถานการณ์การช่วยชีวิตของ 13 หมูป่า ณ ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ต้องมีการเข้าไปดำน้ำในถ้ำเพื่อให้การช่วยเหลือนั่นเอง ซึ่งความท้าทายของกีฬาชนิดนี้ก็คือการที่ต้องอยู่ใต้น้ำเป็นระยะเวลานาน ในที่ที่ทั้งมืดและแคบ ดังนั้นทักษะที่จะได้จากกีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดนี้มีอะไรบ้างไปดูกัน

สติ สมาธิ คือทักษะเอาตัวรอดทั้งในถ้ำและในชีวิตจริง

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า Cave Diving นั้น ผู้เล่นต้องพาตัวเองไปอยู่ใต้น้ำเป็นระยะเวลายาวนานในระดับหนึ่ง ในถ้ำที่ทั้งมืดและแคบ ดังนั้นการมีสติ และสมาธิที่แน่วแน่จดจ่อจะต้องเป็นสิ่งที่ผู้เล่นจำเป็นจะต้องได้รับการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดี และแน่นอนว่าอะไรที่ได้รับการฝึกฝนหรือโฟกัสอยู่บ่อย ๆ ย่อมที่จะต้องกลายเป็นนิสัยติดตัวของบุคคลผู้นั้นไปโดยปริยายอย่างแน่นอน และเชื่อเหลือเกินว่านอกถ้ำบนพื้นดินแล้วคนที่มีทั้งสติและสมาธิไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรที่จะเข้ามาทดสอบ ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกังวลแม้แต่น้อย

รอคอยและอดทนให้เป็น อย่างไรเสียมากน้อยชีวิตคนเราก็ต้องหัดใจเย็นให้เป็น

การดำน้ำลงไปในที่แคบและมืดนั้น จะผลีผลามเคลื่อนที่ไปให้เร็วอย่างใจเหมือนตอนอยู่บนบกในที่สว่าง ๆ ไม่ได้ จะต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป รู้จักอดทนรอคอยให้เป็น เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตก็เป็นได้ และแน่นอนว่าทักษะการรอคอยย่อมเป็นทักษะสำคัญในการดำรงชีวิตของผู้คนในสังคม ในยุคที่อะไรๆ ก็รวดเร็วทันใจไปหมด น้อยคนนักที่จะมีน้ำอดน้ำทนกับอะไรได้นาน ๆ แต่หากทำได้ ก็จะยิ่งได้เปรียบกว่าคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน

ความรอบคอบในการใช้ชีวิต

ในเมื่อ Cave Diving เป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่มีความอันตราย ดังนั้นในทุก ๆ การเคลื่อนที่จึงต้องมีความรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง เพราะการทำอะไรที่มีความเสี่ยงนั้น หากยิ่งไร้ความระมัดระวัง ความรอบคอบแล้วล่ะก็ เชื่อว่าผลที่ได้จะร้ายมากกว่าดีอย่างแน่นอน และเพราะการดำเนินชีวิตก็ไม่ต่างกันกับ Cave Diving เพราะจัดได้ว่าเป็นการเดินทางรูปแบบหนึ่งที่ต้องมีอุปสรรค บางครั้งหนทางชีวิตก็ไม่ง่ายดายเสมอไป ดังนั้นหากคนเรามีทักษะของความรอบคอบในการใช้ชีวิตเป็นพื้นฐาน เชื่อแน่ว่าหากเจอเรื่องร้ายก็จะสามารถก้าวข้ามผ่านไปได้อย่างแน่นอน

เป็นอย่างไรบ้างกับ 3 ทักษะสำคัญที่ได้จากกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่าง Cave Diving อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่กีฬาชนิดนี้เท่านั้นที่จะสามารถส่งเสริมให้ผู้เล่นมีทักษะการดำเนินชีวิตเพิ่มมากขึ้น หากคุณผู้อ่านท่านใดสนใจก็สามารถที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ไม่ยากนัก ขอให้ทุกคนโชคดี

post

หลากหลายกีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำ ที่คนชอบความตื่นเต้นไม่ควรพลาด

ขึ้นชื่อว่าเป็นกีฬา อย่างไรเสียจะมากจะน้อยก็ย่อมให้คุณประโยชน์ต่อผู้ที่เลือกออกกำลังกายด้วยกีฬาชนิดนั้น ๆ ไม่มากก็น้อย และความแข็งแรงของสุขภาพร่างกายนั้นเป็นสิ่งมีประโยชน์อันดับต้น ๆ ที่จะได้รับจากการออกกำลังกายแน่ ๆ แต่สำหรับกีฬาบางชนิดนั้น นอกจากประโยชน์ในด้านความแข็งแกร่งของร่างกายที่ผู้เล่นจะได้รับแล้วนั้น ความตื่นเต้นท้าทายก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถช่วยให้ผู้เล่นหรือผู้ที่รักการออกกำลังกายได้รับความสนุกเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เราจึงจะแนะนำกีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำให้กับคนที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำกัน บอกเลยว่าไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

1.Body Boarding หรือที่ใครหลาย ๆ คน อาจจะรู้จักกันในชื่อ “Boogieboarding” เป็นหนึ่งในกีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำชนิดหนึ่ง ที่ทั้งน่าสนุกและมีความตื่นเต้นขณะเล่นเป็นอย่างมาก ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น ก็คือ แผ่นโฟมสี่เหลี่ยมที่ทำมาจากโฟมประเภทไฮโดรไดนามิค โดยรูปร่างและแบบของแต่ละกระดานที่ใช้ในการเล่นก็จะแตกต่างกันไปขึ้นกับสรีระร่างกายของผู้เล่นแต่ละคนเป็นสำคัญ นอกจากนี้หากผู้เล่นคนใดต้องการเพิ่มความเร็วในการเล่น ก็อาจจะหาตีนกบมาใส่เพื่อช่วยให้สามารถเพิ่มความเร็วและควบคุมทิศทางการเล่นได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

2.Kite Surfing เป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำระดับก้าวหน้าชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “ระดับก้าวหน้า” เนื่องจากกีฬาชนิดนี้มีความอันตรายค่อนข้างมาก ดังนั้นผู้ที่ต้องการที่จะเล่นกีฬาชนิดนี้จึงจำเป็นจะต้องผ่านการฝึกฝนจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เรียนรู้วิธีการเล่น และต้องเข้าใจวิธีการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบการเล่นเป็นอย่างดี โดยอุปกรณ์จำเป็นที่ใช้ในการเล่น Kite Surfing ประกอบด้วย ว่าวหรือร่ม (Kite) ซึ่งมีขนาดแตกต่างกันไป มีหลากหลายเบอร์ให้เลือกแล้วแต่แรงลมของสถานที่เล่นเป็นสำคัญ เช่น ถ้าเล่นในประเทศไทยคนส่วนใหญ่จะใช้เบอร์ 12 เป็นต้น เข็มขัด (Harness) ที่โยงตัวผู้เล่นไว้กับร่ม กระดานโต้คลื่น (Board) ใช้ในการโต้คลื่นขณะเล่น เสื้อชูชีพ และหมวกกันน็อคนั่นเอง

3.Canoeing เป็นการพายเรือแคนูไปบนพื้นผิวของน้ำ หากฟังแบบนี้แล้วใครหลายคนอาจจะคิดว่าแล้วเจ้ากีฬาชนิดนี้มันมีความเอ็กซ์ตรีมตรงไหน คำตอบคือหากพายอยู่บนแม่น้ำ หรือแหล่งน้ำที่นิ่ง ๆ เรียบราบสงบ ก็ดูที่จะไม่มีความผาดโผนหรือน่าตื่นเต้นใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หาก Canoeing ที่ว่านี้ เป็นการพายเรือแคนูอยู่บนสายน้ำอันเชี่ยวกราก เฉกเช่นเดียวกับการล่องแก่ง การไหลไปตามสายน้ำที่มีความเร็วและรุนแรงมาก ๆ ตลอดสองข้างทางเป็นโขดหินมากมายระเกะระกะ แบบนี้ก็คงจะน่าตื่นเต้นอยู่ไม่ใช่น้อย และด้วยความที่เจ้าเรือแคนูนี้ จำนวนคนพายต่อลำมีได้ไม่มาก ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและสติในการเล่นค่อนข้างมาก เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมาอาจจะมีเรื่องน่าเศร้าตามมาก็เป็นได้

และนอกจากกีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำที่กล่าวมาข้างต้น สำหรับใครที่ชอบความตื่นเต้นท้าทายก็สามารถที่จะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ รับรองว่าคนที่ชื่นชอบความผาดโผนเป็นชีวิตจิตใจ จะได้รู้จักกับชนิดกีฬาเอ็กซ์ตรีมอีกมากมายที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้จักมาก่อนก็เป็นได้

post

ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ของคุณด้วยการทำความรู้จัก “กีฬาเอ็กซ์ตรีม”

ในช่วงชีวิตของคุณ เมื่อให้นึกถึงกีฬาที่อยู่รอบตัวแล้ว คนทั่วไปก็จะนึกถึงกีฬาที่ได้เห็นกันอย่างแพร่หลายตามโทรทัศน์หรือหน้าหนังสือพิมพ์ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล ว่ายน้ำ หรือกีฬาอื่น ๆ อีกมากมายบนโลกใบนี้ มีน้อยคนนักที่จะพูดถึง “กีฬาเอ็กซ์ตรีม” เป็นอันดับแรก เพราะในความคิดของคนเรา “กีฬาเอ็กซ์ตรีม” คือกีฬาที่อันตรายจนไม่เป็นที่นิยมเล่นกันทั่วไป แต่ถ้าหากคุณลองหันมาทำความเข้าใจ “กีฬาเอ็กซ์ตรีม” กันดูอีกครั้ง คุณอาจจะค้นพบเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในกีฬาประเภทนี้อย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อวันเวลาผ่านไป มีการสื่อสารผ่านวัฒนธรรมข้ามโลกมากขึ้น กีฬาก็คือส่วนหนึ่งที่เป็นตัวช่วยในการเผยแพร่วัฒนธรรมจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง รวมถึงการเล่น “กีฬาเอ็กซ์ตรีม” ก็เช่นเดียวกัน จากอดีตที่ “กีฬาเอ็กซ์ตรีม” เป็นที่นิยมเพียงคนกลุ่มหนึ่ง ก็เริ่มมีการแพร่หลายเป็นวงกว้าง ทำให้เกิดความเข้าใจในกีฬาเอ็กซ์ตรีมมากขึ้นว่าไม่ได้มีเป็นแค่กีฬาที่เสี่ยงอันตรายเพียงอย่างเดียวเช่นแต่ก่อน

ค้นหาความกล้าและความท้าทายด้วย “กีฬาเอ็กซ์ตรีม”

“กีฬาเอ็กซ์ตรีม” เป็นกีฬาผาดโผนที่เข้ามาช่วยให้คุณค้นพบความกล้าที่แฝงอยู่ในตัวของคุณ ด้วยเทคนิคการเล่นที่ท้าทายความตื่นเต้นของคุณในแบบต่าง ๆ ซึ่งมีให้คุณได้เลือกประลองความกล้าที่ซ่อนอยู่ในตัว ตั้งแต่กีฬาที่มีความโลดโผนในระดับน้อย เพื่อกระตุ้นหัวใจให้ระทึกเบา ๆ เช่น การล่องบอลลูน, Zip Lining นับเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ปลอดภัย การเล่นประเภทนี้จะพาคุณก้าวข้ามขีดจำกัดความสูงหรือความเร็วของตัวคุณเอง และให้คุณได้เห็นโลกในอีกมุมที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน

หากต้องการเพิ่มความท้าทายหวาดเสียวให้มากขึ้น กีฬาเอ็กซ์ตรีมก็มีให้คุณเลือกลองอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางอากาศ อาทิ พาราไกลเดอร์, พารามอเตอร์, Hang Gliding เป็นต้น ส่วนกีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำ ตัวอย่างเช่น การดำน้ำ, สกีน้ำ, เวคบอร์ด ตลอดจนกีฬาเอ็กซ์ตรีมบนบก ตัวอย่างเช่น จักรยานผาดโผน, สเก็ตบอร์ด, อินไลน์สเกต ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน

ที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงตัวอย่างของกีฬาเอ็กซ์ตรีมเท่านั้น ยังมีกิจกรรมผาดโผนอยู่อีกมากที่จัดอยู่ในประเภทกีฬาเอ็กซ์ ตรีม ซึ่งแต่ละอย่างนั้นมีจุดที่คล้ายกัน นั่นก็คือสร้างความท้าทาย สร้างความตื่นเต้น ค้นหาประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างออกไปจากกีฬาทั่วไปให้ชีวิตคุณ

เมื่อคุณตัดสินใจมาเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม สิ่งที่คุณจะได้รับจากการฝึกฝนที่มากกว่ากีฬาชนิดอื่น นอกจากการพัฒนาเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สร้างสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว การเล่นกีฬาผาดโผนบางชนิดก็ต้องอาศัยอุปกรณ์เป็นส่วนประกอบ คุณจะได้เรียนรู้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดของการเคลื่อนไหวไปพร้อมอุปกรณ์ ได้ ฝึกฝนสมาธิให้แน่วแน่เพื่อให้เกิดความพร้อมให้การเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมประเภทนั้น ๆ  ซึ่งเป็นการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ความกล้าของคุณมาเล่นกีฬาผาดโผนด้วย

post

Free Running วิ่งไปบนความพลิ้วไวของร่างกาย

หากให้คุณนึกถึงการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องอุปกรณ์ใดใดเลยนั้น สิ่งแรกที่คุณนึกถึงก็คงไม่พ้นการวิ่ง เพียงคุณมีรองเท้ากีฬาสักคู่ ก็สามารถออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของคุณได้ แต่บางครั้งการวิ่งบนลู่วิ่งทั้งในสนามหรือว่าฟิตเนสก็ทำคุณเบื่อหน่ายจนคุณต้องการมองหารูปแบบการออกกำลังกายใหม่ ๆ โดยที่คุณยังหลงใหลการวิ่งอยู่แล้วละก็ Free Running คงเป็นกีฬาที่จะเข้ามาทำให้การวิ่งของคุณมีสีสันเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

Free Running กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่น่าทึ่ง

Free Running ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในกีฬาเอ็กซ์ตรีม ที่พัฒนามาจากการฝึกฝนร่างกายชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เรียกว่า Parkour ซึ่งเป็นกีฬาที่นิยมในประเทศฝรั่งเศสช่วงปี 1980 กีฬาที่อาศัยการวิ่ง การปีน การกระโดด ไปจนถึงคลานลงกันพื้นโดยการเคลื่อนร่างกายให้เร็วที่สุดจากที่หนึ่งไปยัง ในสภาพแวดล้อมที่ถูกสร้างขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปมีการดัดแปลงจนมาเป็น Free Running ที่เพิ่มความตื่นเต้นด้วยสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนมากขึ้น เพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกายที่พลิ้วไหวมากขึ้น อาศัยความคิดสร้างสรรค์จากเทคนิคเฉพาะตัวแต่ละคนให้เคลื่อนไวอย่างอิสระ และใช้การตีลังการเข้ามาเพิ่มความท้าทาย ความตื่นเต้นให้การวิ่งของคุณ

หากอธิบายให้เข้าใจอีกระดับ การวิ่งแบบ Free Running คือการวิ่งในรูปแบบวิ่งอิสระ ที่ใช้สิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งส่วนมากจะเน้นสภาพแวดล้อมที่เป็นเขตเมือง การวิ่งด้วยความเร็วจากการวิ่งด้วยเท้าทั้งสองข้างผสานกับการมองเห็นเครื่องกีดขวางที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนสั่งการไปที่สมองให้คุณเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อหลบสิ่งกีดขวางด้วยการกระโดดข้ามด้วยกำลังเท้า การเกาะปีนด้วยมือทั้งสองข้าง หลบหลีกเก้าอี้ที่ขวางทางด้วยการตีลังกาอย่างพลิ้วไหวสวยงาม จนบางครั้ง Free Running ก็ต้องนำเอาเทคนิคจากกีฬาชนิดอื่นมาใช้ร่วมด้วย เช่น กีฬายิมนาสติกลีลาหรือการเต้นเข้าจังหวะ รวมถึงท้าทายความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องเกิดขึ้นเฉพาะหน้าเพื่อออกแบบท่วงท่าให้ออกมาได้น่าชื่นชมและปลอดภัย

สิ่งที่คุณจะได้จาก Free Running นอกจากร่างกายที่แข็งแรงจากการใช้กำลังการวิ่งแล้วนั้น Free Running จะช่วยสร้างสมดุลภายในร่างกาย ขณะที่คุณเคลื่อนไหวร่างกายในทุกส่วนให้มีลีลาอันน่าทึ่งในสายตาของผู้ชม อย่างเช่นในโฮมวิดีโอจากต่างประเทศที่เรามักเห็นนักวิ่งอิสระบางคนสามารถสร้างความตื่นตาให้เรา ด้วยการปีนกำแพงที่สูงเหมือนตัวเบาราวกับร่างกายไร้แรงโน้มถ่วงของโลกมาฉุดดึงไว้ หรือการตีลังกาลงมาจากที่สูง แล้วม้วนตัวกลับมายืนได้อย่างง่ายดาย สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนใช้ความสามารถทางกายภาพที่มีความสมดุลของร่างกายทั้งสิ้น                

ทั้งนี้ทั้งนั้นกว่าจะได้ภาพที่น่าประหลาดใจผู้ชม นักกีฬา Free Running ก็ต้องอาศัยความใส่ใจด้านสถานที่บริเวณให้มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้เล่นนั้นสามารถแสดงศักยภาพของตัวเองได้ออกมาอย่างเต็มที่ เมื่อผู้เล่นก้าวข้ามขีดจำกัดความกลัวของตัวเองแล้ว ท่วงท่าลีลาอันงดงามที่ถูกแสดงออกมาก็คือเสน่ห์อันน่าตื่นใจของกีฬา Free Running ที่รอให้คุณได้สัมผัสนั่นเอง

post

Zorb Ball กลิ้งไปพร้อมกับความตื่นเต้น

ถ้าหากคุณได้เปิดโทรทัศน์ดูรายการแนวแอดเวนเจอร์สักรายการหนึ่ง คุณคงจะเคยคุ้นตากับกีฬาชนิดหนึ่งที่รูปแบบการเล่นคือการกลิ้งลูกกลม ๆ ขนาดใหญ่ ไปตามทางหรือกลิ้งเพื่อเล่นกับผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งความโดดเด่นของเจ้าลูกบอลยักษ์นี้ก็คือการใช้ผู้เล่นเข้าไปเป็นผู้ควบคุมทิศทางให้ลูกบอลกลิ้งไปตามเป้ามาย เป็นหนึ่งในกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่มีกติกาเรียบง่ายเข้าใจไม่ยาก

Zorb Ball กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในยุคปัจจุบันมีกีฬาเอ็กซ์ตรีมเกิดขึ้นใหม่หลายชนิด รวมถึง Zorb Ball ก็นับเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะดุดตา ด้วยรูปแบบที่เป็นพลาสติกทรงกลมขนาดใหญ่ จนผู้เล่นสามารถเข้าไปอยู่ด้านในได้หมดทั้งตัว บางชนิดก็สามารถเข้าไปด้านในได้มากกว่าหนึ่งคนด้วย Zorb Ball เกิดขึ้นเมื่อปี 2000 คิดค้นโดยชาวเนเธอร์แลนด์ จนความนิยมแผ่ขยายเป็นวงกว้าง จนกระทั่งเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นเมื่อมีการบัญญัติให้ Zorb Ball อยู่ในพจนานุกรมภาษาอังกฤษโดยย่อของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งมีความหมายว่าเป็นกีฬาที่ผู้เข้าร่วมเข้าไปอยู่ในลูกบอลขนาดใหญ่ ก่อนกลิ้งไปบนพื้นดินหรือเนินเขาที่ปลอดภัย จึงทำให้การกลิ้ง Zorb Ball ได้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น

สำหรับเรื่องความปลอดภัย คุณอาจจะได้ยินคำถามที่ว่าเราจะหายใจได้อย่างไรเมื่ออยู่ภายในลูกบอลพลาสติกกลม ๆ ยิ่งเมื่อกลิ้งไปบนพื้นด้วยแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกถึงความอึดอัดที่ต้องเกิดขึ้นในขณะที่เล่นอย่างแน่นอน ซึ่งคำตอบสำหรับข้อสงสัยนี้คือคุณสามารถหายใจเข้าออกได้ตามปกติเหมือนการเล่นกีฬาทั่วไป เนื่องจาก Zorb Ball ทำจากพลาสติกบางที่มีลักษณะยุบง่าย แม้น้ำหนักจะมาก แต่มีช่องว่างด้านในที่กว้าง พร้อมช่องเข้าออกที่เปิดอยู่เสมอ การเล่นกีฬาผาดโผนชนิดนี้จึงมีความปลอดภัย ไร้กังวล Zorb Ball จึงเป็นกิจกรรมกลางแจ้งที่สนุกเหมาะกับคุณและครอบครัว

นอกจากการกลิ้ง Zorb Ball ตามทางราบหรือลงเนินแล้ว ก็เริ่มมีการขยายรูปแบบการเล่นไปสู่การกลิ้ง Zorb Ball บนผิวน้ำอีกด้วย ยิ่งเล่นอยู่บนผิวน้ำก็ยิ่งต้องใช้พละกำลังในการบังคับการเคลื่อนไหวของลูกบอลเพิ่มขึ้น เป็นอีกทางเลือกของคนที่รักการออกกำลังกายที่น่าลองดูสักครั้งหนึ่ง

เล่น Zorb Ball ในแบบทีม เพิ่มความสนุกในวันพักผ่อน               

เมื่อคุณได้รู้จักและได้ลองกลิ้งลูกบอลยักษ์ไปบนพื้นดูแล้ว หากคุณตกหลุมรักการแข่งขันที่มากกว่าการบังคับลูกบอลไปในทิศที่คุณต้องการเพียงอย่างเดียวละก็ การเล่น Zorb Ball ในแบบทีมก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ยิ่งในปัจจุบันมีที่เที่ยวมากมายที่พร้อมให้บริการเกี่ยวกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ และ Zorb Ball ก็เป็นหนึ่งกิจกรรมที่สถานที่เที่ยวบางแห่งมีไว้ให้คุณและเพื่อนได้ท้าทายซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ เช่น ในบางสถานที่ประยุกต์การเล่น Zorb ร่วมกับกีฬาฟุตบอล มีการแบ่งทีมผู้เล่น ใช้การกลิ้ง Zorb Ball แทนการวิ่งด้วยเท้า กลิ้งตัวเองไปชนคู่ต่อสู้ให้ไปยังประตูเป้าหมาย นับเป็นการเอา Zorb Ball มาสร้างความสามัคคีและใช้เวลาพักผ่อนของคุณได้เป็นอย่างดี

post

Balance Bike จักรยานขาไถ ของเล่นยุคใหม่ที่ไม่ควรพลาด

เมื่อวัยเด็กเราทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าของเล่นเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเรา เพื่อปูพื้นฐานการเรียนรู้มาจนเติบโต ของเล่นทั่วไปที่เราเคยเห็นกันมาสำหรับเด็กผู้หญิงก็คนไม่พ้นพวกตุ๊กตา ชุดทำครัว หรืออุปกรณ์ที่ช่วยเสริมจินตนาการ ส่วนพวกเด็กผู้ชายก็เน้นไปทางด้านการใช้พละกำลังด้านกีฬา เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือพวกหุ่นยนต์เลียนแบบตัวการ์ตูนชื่อดัง เมื่อเวลาผ่านไปพร้อมกับวิวัฒนาการของสังคม ของเล่นเหล่านี้ก็ยังคงเป็นของเล่นที่อยู่กับเด็ก ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ในปัจจุบันมีของเล่นชนิดหนึ่งที่มีวิวัฒนาการมาเพื่อช่วยให้การเรียนรู้เสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก ๆ ตั้งแต่เริ่มหัดเดิน นั้นก็คือ Balance Bike ชื่อภาษาไทยจำง่าย ๆ เรียกว่า จักรยานทรงตัว หรือที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งก็คือ จักรยานขาไถ เป็นกิจกรรมสำหรับเด็กยุคใหม่ที่เริ่มเป็นที่สนใจของคุณพ่อคุณแม่ในปัจจุบัน เพราะจักรยานทรงตัวนี้จะช่วยให้เด็กที่เริ่มหัดก้าวเดินได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทรงตัว ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอวัยวะสำคัญในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างดี

Balance Bike จักรยานขาไถ ความตื่นเต้นของนักแข่งรุ่นเยาว์

จักรยานทรงตัว เกิดขึ้นโดยนักประดิษฐ์ชาวเยอรมัน โดยมีแรงบันดาลใจจากการนำลักษณะของจักรยานและมอเตอร์ไซค์รวมเข้าด้วยกัน มีสองล้อคล้ายจักรยานทั่วไป แต่มีความเฉพาะตัวตรงที่ Balance Bike จะไม่มีคานเหยียบ ไม่มีโซ่ ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ในการขนสิ่งสินค้าเฉพาะบุคคล

หากคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจให้ลูกของคุณได้ลองทำความรู้จักกับจักรยานขาไถ ก็สามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุประมาณ 18 เดือน หรือความพร้อมในการเริ่มหัดยืนของเด็ก รวมถึงความสนใจในอุปกรณ์ของตัวเด็กเองด้วย เมื่อลูกของคุณให้ความสนใจกับจักรยานขาไถเมื่อไร คุณก็ควรให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัย ซึ่งการเล่นกีฬาจักรยานขาไถเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้การจับจักรยานด้วยมือ การออกแรงดึงให้จักรยานตั้งตรง การนั่งในท่าที่สมดุล ได้ใช้แรงเท้าและแขนในการเคลื่อนตัวบังคับทิศทาง เป็นพัฒนาการการทำงานของระบบประสาทและสมองเข้าด้วยกัน ซึ่งกิจกรรมต่างเหล่านี้ต้องอาศัยการฝึกฝน จึงมีบ้างที่ลูกจะต้องล้มหรือสะดุดกับการเล่น คุณพ่อคุณแม่มีหน้าที่คอยสอดส่องและป้องกันความปลอดภัยให้เด็ก ๆ ด้วยการเสริมอุปกรณ์ป้องกันและพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยให้แก่เขาด้วย

ในปัจจุบัน Balance Bike เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในประเทศไทยก็เริ่มมีการจัดการแข่งขันจักรยานขาไถสำหรับเด็กอยู่หลายรายการ แน่นอนว่าเมื่อมีการแข่งขันก็จะทำให้เด็กได้เรียนรู้การเข้าสังคม ได้พบเจอกับเด็กในวัยใกล้เคียงกันและสนใจกิจกรรมเดียวกัน ทำให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่กับเพื่อน ๆ ยิ่งเมื่อต้องอยู่ในสนามแข่งขันก็ยิ่งเป็นการพัฒนาสมาธิให้จดจ่ออยู่กับอุปสรรคกีดขวางที่ถูกจัดไว้ภายในสนาม เช่น พวกทางเลี้ยว ทางโค้ง ทางชันต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความตื่นเต้น ท้าทายความสามารถ สร้างความสนุกสนานและประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับวัยเยาว์ได้เป็นอย่างดี                

เมื่อคุณรู้จัก Balance Bike แบบนี้แล้ว คุณก็อย่าลังเลที่จะแนะนำกีฬาเอ็กซ์ตรีมรุ่นเล็กนี้ให้กับลูกหรือเด็ก ๆ ที่คุณรู้จักได้ลองสัมผัสดูสักครั้ง ไม่แน่ว่าเด็ก ๆ อาจจะมีความตั้งใจหมั่นฝึกฝนจักรยานขาไถ แล้วเริ่มต้นตั้งเป้าหมายเพื่อการแข่งขันในระดับโลกต่อไป กลายเป็นนักแข่งจักรยาขาไถรุ่นเยาว์ในอนาคตก็เป็นได้

post

“Jumping Stilts” กีฬาสำหรับคนชอบกระโดด

คนเราตั้งแต่เล็กจนโตที่วันแต่ละวันย่อมมีการจินตนาการให้การเรียนรู้อยู่บ้าง และก็อาจมีบางครั้งที่คุณคงอยากลองใช้ชีวิตแบบสัตว์ต่าง ๆ ที่ได้เห็นในโทรทัศน์หรือตามสวนสัตว์ดูบ้าง อย่างเช่น อยากลองกระโดดได้สูงและวิ่งเร็วเหมือนจิงโจ้ ซึ่งในเมื่อโลกมีการพัฒนามากขึ้น ความคิดของคุณที่อยากกระโดดได้สูง ๆ ก็มีความเป็นจริงด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เรียกว่า “Jumping Stilts”

Jumping Stilts เป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่จัดอยู่ว่าเป็นกีฬาเสี่ยงชีวิตในระดับหนึ่ง กีฬาชนิดนี้เกิดขึ้นจากวิศวกรการบินและอวกาศชาวเยอรมัน นามว่า Alexander Boeck เขาประดิษฐ์ขึ้นในปี 2003 โดยมีแนวคิดเพื่อช่วยเหลือผู้พิการที่ต้องใส่ขาเทียม และได้ค้นพบว่าอุปกรณ์ของเขาสามารถทำให้ผู้สวมใส่กระโดดได้สูงขึ้นกว่า 3 เมตร รวมถึงสามารถวิ่งเร็วและไกลขึ้นอีกด้วย จึงเล็งเห็นถึงการเพิ่มความสะดวกสบายให้มนุษย์ด้วยการใส่ขาเทียม จนได้กล่าวว่า “การใส่ขาเทียมจะเป็นหนทางในการสร้างความสามารถให้มนุษย์ ไม่ใช่ใส่แล้วยิ่งเดินไม่สะดวก” ในช่วงแรก เรียกอุปกรณ์ขาเทียมนี้ว่า Powerbocking เพื่อเป็นเกียรติแก่อเล็กซานเดอร์

เมื่อมีการทดลองประดิษฐ์เครื่องเล่นชนิดนี้จนเป็นที่น่าพอใจ อเล็กซานเดอร์ได้นำมันออกมาเล่นในที่สาธารณะละแวกบ้าน แต่ด้วยเทคโนโลยีของการสื่อสาร ทำให้ Powerbocking ได้เป็นที่รู้จักผ่านแพลตฟอร์มวิดีโออย่างยูทูบ และได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายในทุกมุมโลก จนกลายเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่ง ก็คือ Jumping Stilts ซึ่งในปี 2008 ก็มีการให้ความสนใจใน Jumping Stilts เพิ่มมากขึ้นอีก เมื่อมีการใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ร่วมกับการแสดง ทำให้นักแสดงสามารถกระโดดสูงได้จนน่าตกใจ สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ชมทั่วโลก

“Jumping Stilts” ถึงอันตรายแต่ก็ท้าทายชีวิต               

การเล่น Jumping Stilts เป็นเรื่องง่ายที่จะเกิดอันตรายกับร่างกาย เนื่องการการต่อขาที่ช่วยให้คุณกระโดดได้สูงมากกว่า 3-4 เมตร หรือมากกว่านั้น ในระหว่างช่วงที่คุณลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อเกิดการหมุนหรือพลิกกลับตัวผิดจังหวะ หากร่างกายไม่ว่าส่วนไหนของคุณกระทบลงพื้น ก็ย่อมเจ็บรุนแรงกว่าการกระโดดทั่วไป เพราะส่วนใหญ่การเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดนี้คุณจะต้องยืนอยู่บนพื้นผิวที่แข็ง อย่างพื้นคอนกรีต ถ้าเจ็บเล็กน้อยก็แค่เกิดการถลอก แต่ถ้าหากพูดถึงการบาดเจ็บรุนแรง เช่น กระดูกแขนขาหักก็มีอยู่ให้เห็นเช่นกัน ดังนั้น เมื่อคุณหลงใหลการกระโดดได้สูง ๆ วิ่งได้ไกล ๆ ด้วยขาทั้งสองของคุณเองแล้ว นอกจากตัวอุปกรณ์ Jumping Stilts เองแล้ว คุณก็ต้องมีความพร้อมในการซื้ออุปกรณ์เสริมที่จะเข้ามาช่วยป้องกันอันตรายกับร่างกายด้วย อาทิ สนับเข่า สนับศอก ไปจนถึงหมวกกันน็อคที่พอดีกับศีรษะ เมื่ออุปกรณ์ต่างพร้อม คุณก็จะสามารถฝึกฝนการเล่น Jumping Stilts ได้อย่างปลอดภัย ได้สมติให้ตัวเองได้กระโดดสูงอย่างอิสระ เลียนแบบท่าทางการกระโดดให้เหมือนจิงโจ้อย่างที่คุณเคยจินตนาการ ไปถึงตีลังกาก็ย่อมทำได้