post

ตำนานว่าวไทยควรค่าแค่ไหนกับการเป็นมรดกโลก

เท้าความถึงสมัยโบราณที่มีการทำว่าวขึ้นมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเพทราชา ที่ไม่ใช่แค่ความสนุกสนานหรือเป็นการละเล่นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่เพื่อการศึกสงครามกันเลยทีเดียวโดยมีการทำดินดำที่ใช้ระเบิดใส่หม้อและผูกกับสายป่าน เพื่อชักขึ้นไปแล้วไปตกลงเพื่อเผาบ้านเมืองกันเลยทีเดียว ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ได้มีการส่งเสริมการเล่นว่าวอย่างจริงจังโดยให้มีการจัดแข่งขันที่ท้องสนามหลวง ระหว่างว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า จนเป็นสถานที่ในตำนานของการเล่นว่าวและสืบสานกันมาจนถึงยุคพุทธศักราช 2526 ภาครัฐและเอกชนได้ส่งเสริมประเพณีและส่งเสริมการแข่งขันว่าวโดยมีการแข่งขันและจัดนิทรรศการว่าวที่ท้องสนามหลวง เพื่อสืบสานความเป็นตำนานของว่าวไทย เพื่อไม่ให้มันเลือนหายไปจากเมืองไทย

และด้วยความเป็นว่าวไทยตั้งแต่ยุคสมัยโบราณการทำว่าวจึงสอดแทรกศิลปะ และเอกลักษณ์ของความเป็นไทยผ่านความละเอียดอ่อนจากการทำว่าว ไม่ว่าจะเป็นการเหลาไม้ไผ่ในการขึ้นโครงมีมากมายหลายวิธี หรือจะเป็นการใช้ใบไม้ต่าง ๆ มาทำเป็นว่าวในสมัยโบราณแล้วค่อย ๆ พัฒนามาเป็นกระดาษสาจีน ที่ได้รับอิทธิพลมาจากพ่อค้าสำเภาที่นำกระดาษเข้ามา หรือเริ่มจะเป็นกระดาษว่าวที่บางพิเศษที่นำมาผลิตว่าวโดยเฉพาะ ล้วนแล้วแต่มีความเป็นไทยสอดแทรกเข้าไปทั้งนั้น

ศิลปะไทยกับการผลิตว่าวกับการสอดแทรกความเป็นไทย

แน่นอนความทนทานของว่าวฝรั่งแต่ละชาติ วัสดุที่นำมาทำว่าวมีน้ำหนักเบา กินลมง่าย เป็นผ้าร่มและพลาสติกในการขึ้นโครงมีความยืดหยุ่นและทนทานไม่ขาดง่าย แต่ถามว่าอะไรคือเอกลักษณ์ อะไรคือตำนาน อะไรที่บ่งชี้ว่ามันจะสามารถเป็นมรดกโลกได้ แต่ว่าวไทยถ้าคุณได้สัมผัสกับมันอย่างลึกซึ้งกับการทำ กรรมวิธี ความละเอียดอ่อน และลายเส้นที่ประณีตในลวดลายของมันแล้ว คุณจะรู้ว่าคุณควรจะเก็บรักษา สืบทอด และเชิดชู

เราจะมาลองเจาะวิธีการทำว่าสิ่งที่บอกมาทั้งหมดมันคู่ควรกับการเป็นมรดกโลกหรือเปล่า เริ่มจากการเลือกไม้ไผ่ ต้องเริ่มจากการดูไม้ให้เป็นไม่แก่เกินไปและไม่อ่อนจนหักง่าย นำมาผ่าออกเพื่อรอเวลาให้ความชื้นของไม้หมดไปตามการเวลาซักหนึ่งปี ต่อมาการเหลาไม้และขึ้นโครงก็มีอีกหลายแบบไม่ว่าจะเป็นการเหลาแบบปลายบางหรือเท่ากันโดยเก็บรักษาเปลือกไว้เพื่อให้มีการให้ตัวของไม้ได้โดยการทำสอบโดยงอปลายเป็นเวลาซัก 30 วินาที และพอปล่อยต้องกลับมาเป็นรูปทรงเดิมไม่บิดเบี้ยว หรือแม้แต่การขึงไม้ขึ้นโครงจะต้องบิดปลายแค่ไหนให้เหมาะกับชนิดของว่าวที่เราจะทำเพื่องอรับลมและกินลมได้เยอะ หรือไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรูปกระดาษแล้วมีการขึงสักให้กระดาษมีความทนทาน ขึงสักคือการที่เราเอาเชือกว่ามาขึงตามแนวว่าวไม่ว่าจะเป็นแบบตาราง หรือแบบแนวยาว แต่ละแบบก็จะเหมาะกับว่าวแต่ละชนิดมีทั้งแบบที่จะทำการแข่งขันหรือแบบสวยงาม

ที่กล่าวมานั้นเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ถ้าจะต้องลงลึกในรายละเอียดทุกส่วน และประวัติความเป็นมาคงต้องเขียนเป็นหนังสือ แล้วอย่างนี้คุณว่าเหมาะหรือยังกับการเป็นมรดกโลก หันมามองดูความสำเร็จของคนโบราณที่สร้างสมประสบการณ์และเผยแพร่ให้ชาวโลกได้รู้